วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

บทความที่ 2 แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอน


บทที่ 1
แนวคิดการออกแบบการเรียนการสอน

1. ความต้องการในการออกแบบการเรียนการสอน
  คิดและคาเรย์ กล่าวว่า  ความต้องการในการออกแบบการเรียนการสอนคือ ความจำเป็นเร่งด่วนทันทีทันใด โดยยกตัวอย่างว่า นักออกแบบการเรียนการสอน 12 คน ที่ทำงานเกี่ยวกับเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในท้องถิ่นต้องมีปริญญาทางเทคโนโลยีการเรียนการสอนและต้องรับผิดชอบเพื่อที่จะให้เกิดความแน่ใจในคุณภาพของการเรียนการสอนทุกระดับ (Disk and Carey 1985:8)
 การประกาศรับสมัครในตำแหน่งดังกล่าวนี้อได้จัดทำขึ้นโดยบริษัทคู่สัญญาหลังจากเกิดอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ขึ้นที่เกาะทรีไมล์และเชอร์โนบิล (three mile and Chermobyl): ซึ่งแสดงให้เห็นความกดดันเกี่ยวกับคุณภาพการเรียนการสอนที่พบในหลายๆสถานการณ์ วิธีการหนึ่งที่พิสูจน์ข้อผูกผันที่มีคุณภาพต่อการเรียนการสอนที่พบในหลายๆสถานการณ์ คือ การผ่านการรับรองในเรื่องการพัฒนา และการเฝ้าระวังติดตามการเรียนการสอน การออกแบบการเรียนการสอน  การออกแบบการเรียนการสอนเป็นการแก้ปัญหาคุณภาพ การเรียนการสอนในสถานการณ์ต่างๆที่หลากหลาย
ในกรณีขอวเตาปฏิกรณ์ปรมาณู (nuclear power plant) ที่ควบคุมการเรียนการสอนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งในด้านการป้องกันและความพยายามที่จะป้องกันอุบัติเหตุ  สถาบันปฏิบัติการพลังงานนิวเคลียร์และการอุตสาหกรรมในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก่อตั้งองค์กรเพื่อจัดทำนโยบายของตนเองโดยมีมาตรฐานคำสั่งสำหรับโปรแกรมการฝึกอบรมมาตรฐานประกอบด้วยการใช้กระบวนการออกแบบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนสถาบันจะเป็นผู้ประเมินและรับรองการปฏิบัติทางปรมาณู และรวมถึงองค์ประกอบของการฝึกอบรมณ์ในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย  (Vandergrift, 1983)
งานของผู้ออกแบบการเรียนการสอน คือ นำจุดประสงค์และการเรียงลำดับของจุดประสงค์ไปสู่กระบวนการวางแผนการเรียนการสอนเพื่อนที่จะให้เกิดความแน่ใจที่คุณภาพของการเรียนการสอน วิธีการในลักษณะนี้จะเสร็จแล้วได้ด้วยการประยุกต์ใช้กระบวนการเชิงระบบ และใช้การวิจัยและความรู้ทางทฤษฎีจากการออกแบบการเรียนการสอน และจากกสาขาวิชาอื่นๆ  เช่น วิศวกรรมศาสตร์  จิตวิยา และศิลปะ (Vandergrift, 1983)ดังข้องสันนิษฐานของกาเย่ บริกส์และเวเกอร์ (Gagne, Briggs, and Wager) ที่มีต่อการออกแบบการเรียนการสอนว่า เป็นวิธีการหนึ่งที่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้และมีคุณค่าโดยมีการออกแบบการเรียนการสอนต้องอาศัยคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องดังนนี้คือ
1)     มีจุดหมายที่จะช่วยการเรียนรู้ของปัจเจกบุคคล
2)     เป็นแผนระยะสั้นและระยะยาวที่จะให้ผลในการพัฒนามนุษย์
3)     ควรดำเนิการวิธีเชิงระบบที่สามารถให้ผลอันยิ่งใหญ่ต่อการพัฒนามนุษย์
4)     ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ว่ามนุษย์มีการเรียนรู้ได้อย่างไร
(Gagne, Briggs, and Wager, 1992 : 4-5)
ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า ความต้องการจำเป็นในการออกแบบการเรียนการสอน คือ การแก้ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอนในสถานการณืที่หลากหลาย เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพด้วยวิธีการเชิงระบบที่ให้ผลอันยิ่งใหญ่ต่อการพัฒนาปัจเจกบุคคล อละมนุษย์โดยทั่วไปและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ว่ามนุษย์เรียนรู้ได้อย่างไร

2.นิยามการออกแบบการเรียนการสอน
 ริตา ริชชี ( Rita Richey, 1986: 9) ได้นิยามการออกแบบการเรียนการสอนว่า หมายถึง วิทยาศาสตร์การสร้างสรรค์รายละเอียดที่ชี้เฉพาะการพัฒนา การประเมินผลและการบำรุงรักษาสถานการณ์ หรือเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวก ให้กับการเรียนรู้ในหน่วยของเนื้อหาวิชา ทั้งหน่วยใหญ่และหน่วยย่อย
ไชยยศ  เรืองสุวรรณ ได้นิยามว่า การออกแบบการเรียนการสอนเป็นการวางแผนการเรียนการสอนอย่างมีระบบ เพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุดหมาย
 ( Tyler, 1974 : 1)
1.      จะออกแบบและพัฒนาโปรแกรมนี้เพื่อใครเป็นการพิจารณาคุณลักษณะผู้เรียนและผุ้เข้ารับการฝึกอบรมณ์
2.      ต้องการให้ผู้เรียน หรือผู้เข้ารับการฝึกอบรมณ์ได้เรียนรู้อะไรและมีความสามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง เป็นการกำหนดจุดหมายของการเรียน
3.      ผู้เรียนจะเรียนรู้เนื้อหาวิชาหรือทักษะต่างๆได้ดีที่สุดอย่างไร เป็นการกำหนดวิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอน
4.      จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนประสบผลสำเร็จในการเรียนรู้ เป็นการกำหนดกระบวนการประเมิลผล
            ส่วนชีลล์และกลาสไกว์ ได้นิยามว่า การออกแบบการเรียนการสอนเป็นทั้งกระบวนการและสาขาวิชา (process and discipline)  ในฐานะที่เป็นกระบวนการจะเป็นการพัฒนาระบบการเรียนการสอนเฉพาะที่ใช้การเรียนรู้และทฤษฎีการเรียนการสอนที่ให้ความแน่ใจในคุณภาพของการเรียนการสอน ในฐานะที่เป็นสาขาวิชา (discipline of an area of study) จะเป็นสาขาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและทฤษฎีเกี่ยวกับความเฉพาะเจาะจงในเรื่องของการเรียนการสอนและกระบวนการในการพัฒนาความเฉพาะเจาะจง นั้นๆการออกแบบการเรียนการสอนรวมถึง การสร้างสรรค์ความเฉพาะเจาะจงสำหรับสถานการณ์การเรียนการสอนและเพื่อการพัฒนา การประเมิน การบำรุงรักษา การเผยแพร่สถานการณ์การเหล่านั้น
อาจสรุปได้ว่า การออกแบบการเรียนการสอน หมายถึง กระบวนการแก้ปัญหาการเรียนการสอนโดยการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือเงื่อนไขการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ แล้วจึงวางแผนการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุจุดหมายโดยอาศัยความรู้หลายๆทฤษฎี 

ประโยชน์ของการออกแบบการเรียนการสอน
ระบบการเรียนการสอนมีประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน ดังนี้
1) ระบบการเรียนการสอนเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวที่จัดวางองค์ประกอบของการเรียนการสอน ต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ครูรู้จุดมุ่งหมายของการเรียนการสอน การดำเนินการจัดการเรียนการสอน และการวัดผลผู้เรียน ซึ่งอำนวยความสะดวกแก่ครูในการเตรียมการสอนทำให้เกิดความพร้อมในการ ดำเนินงาน 
 2) ส่งเสริมให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ คือสามารถควบคุมการดำเนินงานให้ บรรลุจุดมุ่งหมายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีคุณภาพ และประหยัดทรัพยากร รวมทั้งเวลา ดีกว่าการจัดการเรียนการสอนที่ขาดระบบ เพราะจะทำให้เกิดความสับสน เพราะไม่ทราบจุดมุ่งหมายชัดเจนและ ไม่สามารถควบคุมการดำเนินงานได้ 
 3) ช่วยให้ครูทราบปัญหาและหาแนวทางในการแก้ปัญหาการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม  เพราะมีระบบควบคุมกระบวนการดำเนินการทำให้ทราบว่าผลการเรียนรู้ของนักเรียนเกิดจากปัญหาการ ดำเนินงานในส่วนใด เพื่อหาทางแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 
          4) ช่วยให้ครูได้นำผลการประเมิน และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง การเรียนการสอนให้มีคุณภาพดีขึ้น  
5)     การนำวิธีการเชิงระบบไปใช้ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ทาง การศึกษาต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้อย่าง กว้างขวาง  (Smith & Ragan, 1999, pp. 8-9., Dick, carey, Carey, 2001, p.11) 

การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ หมายถึง การที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ประโยชน์หากเปรียบเทียบกับการทำงานทางธุรกิจแล้ว ประโยชน์ย่อมหมายถึงกำไร เจ้าของกิจการได้กำไรลูกค้าพอใจในราคา คุณภาพ และบริการ คนงานและลูกจ้างได้รับค่าแรงงานที่เหมาะสม และมีความรู้สึกที่ดีต่อบริษัท ในทำนองเดียวกัน นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนย่อมได้ประโยชน์จากการเรียนการสอนไม่มากก็น้อย ดังที่ ไชยยศ เรืองสุวรรณ ได้กล่าว
1.      ผู้บริหารหรือผู้จัดการโปรแกรมการศึกษาและการเรีนการสอนย่อมต้องการความมั่นใจในประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้งบประมาณประหยัดที่สุด
2.       นักออกแบบการสอน ย่อมต้องการความมั่นใจว่าโปรแกรมที่ออกแบบไว้เป็นโปรแกรมที่น่าพอใจ ซึ่งตัวบ่อชี้ที่สำคัญในความพอใจก็คือผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาที่เหมาะสม
3.       ครูผู้สอนย่อมต้องการที่จะเห็นผู้เรียนได้รับความรู้ ความสามารถอื่นๆที่จำเป็นรวมทั้งต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียน
4.      ผู้เรียนต้องการความสำเร็จในการเรียน ได้รับประสบการณ์การเรียนด้วยความสนุกสนานและพอใจ (ไชยยศ, 2533:14)

 ออร์แลนสกี และสตริง (Oransky and Stering, 1981) ได้สรุปผลจากการวิจัยการสอนรายวิชาเทคนิคต่างๆ ด้านการทหารที่มีการออกแบบระบบการเรียนการสอนเป็นอย่างดีว่าสามารถลดเวลาการสอนราชวิชาเหล่านั้นลงได้จาก 25.30 สัปดาห์ เหลือเพียง 9.6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามรายวิชาดังกล่าวที่เป็นรายงานผลวิจัยนั้น เป็นรายวิชาด้านการทหาร ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยรายวิชาอื่น (ในต่างประเทศ) ที่พัฒนาขึ้นมาโดยกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนแล้วกดเวลาการสอนได้ สำหรับในประเทศไทยอาจจกล่าวได้ว่า ระบบการสอนของโครงการส่งเสริม สมรรถภาพการสอน (Reduce Intructional Time : RIT) นั้นเป็นการออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอนที่ผลการวิจัยระบุว่าสามารถลดเวลาการสอนของครู และเพิ่มประเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี (ไชยยศ, 2533:14)
ที่มา  https://sites.google.com/site/bthreiyn1234/prayochn-laea-khx-cakad-khxng-kar-chi-rabb-kar-reiyn-kar-sxn และ พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน

แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไป
                    การออกแบบการเรียนการสอนนำความรู้จากหลายสาขาวิชามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นขั้นตอนกระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกำหนดให้ต้องระบุว่า จะเรียนอะไร วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้น วัดผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า การเรียนรู้นั้นบรรลุตามจุดประสงค์หรือไม่และกลั่นกรองตัวสอดแทรก (intervention) จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์ จากลักษณะนี้เองจึงทำให้เกิดแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป (generic instruction design model : ID model ) ขึ้น ( gibbons 1981:5,hannum and hansen,1989)




แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไปมีความง่ายในการใช้มาก แต่ต้องใช้ด้วยความประณีต และปรับปรุงอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไปได้จัดเตรียมการแนะนำขั้นตอนในกระบวนการของการออกแบบไว้อย่างดี แบบจำลองในลักษณะนี้มีความหมายว่าการออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการเชิงระบบที่ประกอบด้วยขั้นตอนทั่วไปเหล่านี้ คือ
   1.การวิเคราะห์ (Analysis) ซึ่งเป็นกระบวนการของการระบุว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องเรียน
   2.การออกแบบ (Design) ซึ่งเป็นกระบวนการระบุว่าจะเรียนอย่างไร 
   3.การพัฒนา (Development) เป็นกระบวนการของการจัดการและการผลิตวัสดุอุปกรณ์
   4.การนำไปใช้ (Implementation) เป็นกระบวนการของการตัดสินตกลงใจต่อความเพียงพอของการเรียนการสอน
    5.การประเมินผล (Evaluation) เป็นกระบวนการของการตัดสินตกลงใจต่อความเพียงพอของการเรียนการสอน
 ที่มา พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน

บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน (Designer's role) สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค และขึ้นอยู่ส่วนประกอบของทีมการออกแบบ เนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้คำแนะนำในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา (content expert) ถ้าเนื้อหานั้นไม่ต้องใช้เทคนิคที่สูงมากจนเกินไปผู้ออกแบบก็สามารถจัดทำได้อย่างอิสระมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ผู้ออกแบบสามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาจากภายนอก และรับผิดชอบภาระงานทั้งหมดเหมือนกับเป็นคนในสำนักงาน (in-house employers)  ซึ้งได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้ารเนื้อหา บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาวิชา ดังตัวอย่างทั้งสาม (Seels and Glasgow,1990:7-9)
1.ผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาและมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโลยี และเป็นผู้บทบาทของการออกแบบด้วย ไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือด้านรู้ ความชำนาญทางเนื้อหาวิชา
2.ผู้ออกแบบการเรียนการสอน ที่ได้รับการร้องขอให้ทำงานในด้านเนื้อหาที่อาจจะมีความคุ้นเคย แต่ผู้ออกแบบยังคงรู้สึกมีความจำเป็นที่จะทำงานกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
3.ผู้ออกแบบอาจจะได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคยและดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกและทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจำนวนมาก

ตารางที่1. เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนเชิงระบบ
องค์ประกอบของการเรียนการสอน
การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
การเรียนการสอนเชิงระบบ
1. กำหนดเป้าประสงค์ (Setting goals)
-ตำราหลักสตรูดั้งเดิมการอ้างอิงภายใน
-การประเมินความต้องการจำเป็น
-การวิเคราะห์งาน
-การอ้างอิงภายนอก
2.  จุดประสงค์ (Objectives)
-กล่าวในรูปของผลที่ได้รับรวมๆหรือการปฏิบัติของครู
-เหมือนกันสำหรับนักเรียนทุกคน
-จากการประเมินความต้องการจำเป็นการวิเคราะห์/การประเมินงาน
-เลือกด้วยพิจารณาจากความสามารถของผู้เรียนเมื่อแรกเข้าเรียน
       3. จุดประสงค์ในความรู้เฉพาะของผู้เรียน
(Students knowledge of objectives)
-ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าต้องใช้สัญญาณจากการฟังคำบรรยายและการอ่านตำรา
-บอกกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษล่วงหน้าก่อนเรียน
       4.   ความสามารถก่อนเข้าเรียน (Entering capability)
-ไม่ต้องใส่ใจ นักเรียนทุกคนมีจุดประสงค์และวัสดุอุปกรณ์/กิจกรรมเหมือนกันหมด
-การพิจารณา
-การกำหมดวัสดุอุปกรณ์/กิจกรรมแตกต่างกัน
      5.  ผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวัง (Expected achievement)
-ใช้โค้งมาตรฐาน
-มีความเป็นแบบอย่างเดียวกันสูง
       6. ความรอบรู้ (Mastery)
-นักเรียนส่วนน้อยรับรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
-รูปแบบผิดพลาด

-นักเรียนส่วนใหญ่รับรู้จุดประสงค์ทั้งหมด

       7. ค่าระดับและการเลื่อนระดับ (Grading and promotion)
-อยู่บนพื้นฐานการเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ
-อยู่บนพื้นฐานการรอบรู้จุดประสงค์
       8. การสอนเสริม (Remediation)
-บ่อยครั้งที่ไม่มีการว่างแผน
-ไม่มีการแปลงเปลี่ยน
-วางแผนสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือแสวงหาจุดประสงค์

-จุดประสงค์หรือวิธีการเรียนการสอน

-อื่นๆ เลือกวิธีการเรียนการสอน

       9.การใช้แบบทดสอบ
-กำหนดค่าระดับ
-เฝ้าระวังติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
-ตัดสินความรู้
-วินิจฉัยความยากลำบาก
-ปรับปรุงการเรียนการสอน
        10. เวลาศึกษากับความรอบรู้ (Stidy time vs mastery)
-เวลาคงที่:ระดับของความรอบรู้หลากหลาย แตกต่างกัน
-ความรอบรู้คงที่:เวลาหลากหลายแตกต่างกัน
       11.  การตีความของความล้มเหลวที่จะไปให้ถึงความรู้ (Interpretation of failure to reach mastery)
-นักเรียนผู้สงสาร
-มีความต้องการจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงการเรียนการสอน
       12.  การพัฒนารายวิชา (Course of development)
-เลือกวัสดุอุปกรณ์ก่อน
-ระบุจุดประสงค์ก่อนแล้วจึงจะเลือกวัสดุอุปกรณ์
       13. ลำดับขั้นตอน (Sequence)
-อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและสังเขปหัวเรื่อง
-อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตามความจำเป็นและหลักการของการเรียนรู้
       14.  การปรับปรุงการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์ (Revision of instructional and materials)
-อยู่บนพื้นฐานของการคาดเดางาน หรือความเพียงพอของวัสดุอุปกรณ์ใหม่
-เกิดขึ้นเป็นพักๆ
-อยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อมูล
-เกิดขึ้นเป็นจำ
        15.  กลยุทธ์การเรียนการสอน (Instructional Strategies)
-พอใจให้ผ่านได้อย่างกว้างๆ
-อยู่บนพื้นฐานของความชอบและความคล้ายคลึง
-เลือกที่จะให้ได้รับตามจุดประสงค์
-ใช้ยุทธวิธีที่หลากหลาย
-อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีและการวิจัย
        16.  การประเมินผล (Evaluation)
-บ่อยครั้งที่ไม่เกิดขึ้น : การวางแผนเชิงระบบมีน้อย
-ประเมินแบบอิงกลุ่มข้อมูลได้จากปัจจัยนำเข้าและกระบวนการ

-การวางแผนเป็นระบบ : เกิดขึ้นประจำ
-ประเมินความรอบรู้ตามจุดประสงค์
-ประเมินผลอิงเกณฑ์ข้อมูลได้จากผลที่ได้รับ(ผลผลิต) 

ตารางที่ 2. งานและผลผลิตของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน

ขั้นตอนและภาระงาน
ตัวอย่างภาระงาน
ตัวอย่างผลผลิต
การวิเคราะห์-กระบวนการของการนิยามว่าต้องเรียนอะไร
-ประเมินความต้องการจำเป็น
-ระบุปัญหา
-วิเคราะห์ภาระงาน
-แฟ้มผู้เรียน
-การพรรณนาข้อจำกัด
-คำกล่าวของความต้องการจำเป็นและปัญหา
-การวิเคราะห์ภาระงาน
การออกแบบ-กระบวนการของการชี้เฉพาะว่าจะเรียนอะไร
-เขียนจุดประสงค์
-พัฒนารายการของแบบทดสอบ
-วางแผนการเรียนการสอน
-ระบุแหล่งทรัพยากร
-จุดประสงค์ที่วัดได้กลยุทธ์การเรียนการสอน
-ลักษณะเฉพาะของตัวแบบ (prototype specification)
การพัฒนา-กระบวนการของหน้าที่และผลิตวัสดุอุปกรณ์
-ทำงานกับผู้ผลิต
-พัฒนาคู่มือ แผนภูมิโปรแกรม
-สตอรี่บอร์ด (Story board)
 -สคริป
-แบบฝึกหัด
-คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนการสอน
การนำไปใช้-กระบวนการของการก่อตั้งโครงการในบริษัทแห่งโลกความจริง
-การฝึกอบรมครู
-การทดลอง

-การให้ความเห็นของนักเรียนข้อมูล
การปะเมินผล-กระบวนการของการตกลงใจเกี่ยวกับความเห็นผลของการเรียนการสอน
-บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
-ผลการแปลความแบบทดสอบ
-สำรวจผู้สำเร็จการศึกษา
-ทบทวนกิจกรรม
-คำรับรอง
-รายงานโครงงาน
-ทบทวนตัวแบบ
ที่มา  พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน

งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน
งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน
งานของผู้ปฎิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญ ผลิตผลที่ได้และสถานการณ์ของงาน ผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนา ผู้จัดการโครงการอาจจะนำทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติการสามวันสำหรับการอุตสากรรม (three-day workshop) การออกแบบไม่จำเป็นต้องเป็นทีมเสมอไปในองค์กรเล็กๆอาจจะใช้ผู้ออกแบบเพียงคนเดียว ในการทำภาระการออกแบบการเรียนการสอน
ตารางที่3.เปรียบเทียบความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป
บทบาทของผู้วิจัย
บทบาทผู้ปฎิบัติ
ขั้นที่1.การวิเคราะห์




-ศึกษาวิธีการระบุปัญหา
-ศึกษาผลของคุณลักษณะของผู้เรียน
- ศึกษาเนื้อหา

-ประยุกต์ใช้วิธีการระบุปัญหา
- กำหนดคุณลักษณะของผู้เรียน
-ใช้การวิจัยในเนื้อหาตามสาขาวิชา

ขั้นที่2.การออกแบบ




-ศึกษาตัวแปรในการออกแบบข่าวสาร
- พัฒนากลวิธีการเรียนการสอน

-ให้ผู้ปฎิบัติเป็นผู้ออกแบบการเรียนการสอน




ขั้นที่3.การพัฒนา

· 
- ศึกษากระบวนการของทีม


-ทำงานกับผู้ผลิตในการพัฒนาสคริป


ขั้นที่4.การนำไปใช้





- ศึกษาชาติวงค์วรรณาของตัวแปรในสิ่งแวดล้อม



- ออกแบบและจัดการสิ่งแวดล้อมและตัวแปรในการเรียนการสอน




ขั้นที่5.ประเมินผล

-การระบุตัวแปรของการนำไปใช้ให้ได้ผล
-ศึกษาข้อถกเถียงที่นำไปสู่การประเมินผล


- ประยุกต์ทฤษฎีการประเมินผล


ตารางที่4.บทบาทของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอน
นิยาม: บทบาทของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอน คือ สร้างความรอบรู้อย่างเป็นระบบเกี่ยวกับขั้นตอนสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอน บทบาทกำหนดให้ระบุคำถามซึ่งจำเป็นต้องศึกษา วางแผนโครงการอาศัยสารสนเทศในการจัดทำโครงการและรายงานผลของโครงการ
ผลิตผลที่สำคัญ: บทบาทนี้ให้ผลิตผลคือ
                ทฤษฎีกำหนด ทฤษฎีการเรียนการสอน
                สารสนเทศจากตัวแปร วิธีการ บทความ
                รายงาน ตำรา หนังสือ โครงร่างงานวิจัย 
สมรรถภาพสำคัญ: ข้อสันนิษฐานเชิงคำถาม วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง สมมติฐาน การเลือกวิธีการ การออกแบบงานวิจัย ตลอดจนการสืบสวนสิ่งแวดล้อม 
ความเห็น:นักวิจัยการออกแบบการเรียนการสอนจำเป็นต้องให้ความสนใจในบางส่วนของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนมากกว่ากระบวนการทั้งหมด ผู้วิจัยต้องมีสมรรถภาพที่แข็งแกร่งในการวิจัยเชิงปริมาณ และให้ความสนใจกับการพิมพ์ เผยแพร่ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง


งานออกแบบ
พิสัยของงาน (Job)  เป็นไปตามสถานการณ์และระดับที่แตกต่างกันของผู้ชำนาญการบางครั้งผู้ออกแบบการเรียนการสอนทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ชำนาญการในขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการ ในบางงานเรียกผู้ออกแบบว่าเป็นผู้ปฏิบัติที่มีสมรรถภาพในการดำเนินโครการตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด พิสัยของงานไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับหน้าที่มีเฉพาะเจาะจงพิเศษแต่บางงานต้องการระดับความแตกต่างของผู้นำชาญการ (expertise) 
ผลิตผลของการออกแบบ
ไม่ว่าจะเป็นงานที่ตั้งสมมติฐานไว้ หรืองานในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของผลิตผลก็ตาม จะมีขอบเขตที่แตกต่างและซับซ้อน งานการออกแบบการเรียนการสอนก็เช่นกันขอบเขตรวทถึงความแตกต่างของขนาดและเนื้อหาความซับซ้อนรวมถึงความแตกต่างของหลักสูตรหรือสื่อ ในระดับที่เล็กที่สุดของขอบเขต คือ แผนการสอน (Lesson plans) และหน่วยหรือชุดโมดุล (Modules) ระดับต่อไปรวมถึงรายวิชา (Courses) และหน่วย (Unit) รายวิชาหลักสูตรและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวอย่างของผลิตผลที่มีขอบเขตกว้างใหญ่ ระดับสูงสุดของระดับความซับซ้อน คือ สื่อการเรียนรู้ซึ่งมีปฏิกิริยาสัมพันธ์ซึ่งกันและกันโดยอาศัยสื่อทางโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์เข้าช่วย ระดับต่ำสุดของความซับซ้อน คือ กระดาษและดินสอ และสำหรับโสดทัศนวัสดุเป็นระดับกลาง
 ที่มา  พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน 

สมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการทางเชาว์ปัญญา ที่ต้องการทักษะความคิด ในระดับสูง (Nelson, Macliaro and Sherman, 1998 : 29-35) ในการปฏิบัติกิจกรรมนี้จําเป็นต้อง เกี่ยวข้องกับทักษะ และความถนัดตลอดจนการฝึกอบรมและการศึกษา วอลลิงตัน (Wallington, 1981 : 28-33) ได้ให้รายการทักษะที่จําเป็นในการปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอน ซึ่งเป็นทักษะ ระหว่างบุคคล ทักษะในการสื่อสาร ทักษะในการแก้ปัญหา และทักษะในการสกัดและดูดซึม สารสนเทศ และทําให้สิ่งเหล่านั้นอยู่ในกรอบของความมีเหตุมีผล การประยุกต์หลักการทาง พฤติกรรมศาสตร์ และการค้นหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบในระบบ ในการพัฒนา สมรรถภาพของการออกแบบการเรียนการสอน ผู้พัฒนาพยายามที่จะปรับปรุงความถนัดพื้นฐานใน สาขาของตน เช่น การเขียนและการเรียบเรื่องทักษะต่างๆ จากการทํางานอย่างต่อเนื่องในสาขาที่คนมี สมรรถภาพทางวิชาชีพนั้น





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น